เป็นทริปที่ผิดแผนนิดหน่อย แถมไปรู้ตัวเอากลางทางซะด้วย เริ่มแรกพวกเราตั้งใจจะไปชมทุ่งดอกทานตะวันที่ไร่มณีศรกัน เห็นในภาพที่เค้าโปรโมทแล้ว น่าไปถ่ายรูปมากๆ ดอกทานตะวันเต็มทุ่งเลย
พวกเราออกเดินทางตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อที่รถจะได้ไม่ติดมาก ในระหว่างทางที่กำลังไปเขาใหญ่ ก็เปิด Google Map หาทางไปไร่มณีศรกัน แล้วก็เห็นข่าวแจ้งว่า ทางไร่ขอทำการปิดเข้าชม เพราะช่วงก่อนหน้านี้มีฝนตกหนักมาก ทำให้ดอกทานตะวันโดนลมฝน ไม่สวยงาม และถนนเป็นดินโคลนนำรถเข้าไปไม่ได้ พวกเราจึงต้องหาที่เที่ยวใหม่ ซึ่งอยู่แถวๆนั้น ก็เปิดหาข้อมูลกัน และได้ข้อสรุปว่า
- ไปไร่สุวรรณ เพราะมีดอกไม้ให้ถ่ายรูปและซื้อข้าวโพดหวานกลับมาทาน
- ไป Primo Piazza ถ่ายรูปเล่น, ให้อาหาร Alpaca และแกะ
- ทานข้าวกลางวันที่ เดอะ ช็อคโกแลต แฟคทอรี่ (The Chocolate Factory)
มาถึงไร่สุวรรณตอนประมาณ 10.00 น. แดดกำลังแรง เอาน่ะ ยอมร้อนเพื่อให้ได้แสงสวยๆ ลุยกันเลย!
แดดแรงมาก แสบผิวเลยทีเดียว ใครก็กลัวดำก็เตรียมพร้อมกันหน่อยนะครับ ทั้งครีมกันแดด, แว่นตากันแดด, หมวก, ร่ม วันที่เราไปตรงกันงานเกษตรแฟร์ปากช่อง 58 พอดี ใครที่เดินถ่ายรูปเสร็จแล้ว แวะเข้าร่มมาชมงานเกษตรกันต่อได้เลย ที่ไร่สุวรรณไม่เสียค่าเข้าชม แล้วอย่าลืมแวะอุดหนุนผลิตภัณฑ์จากข้าวโพด ทั้ง นมข้าวโพด, ข้าวโพดต้ม, ข้าวโพดฝัก กลับบ้านกันด้วยนะครับ
ภายในบริเวณไร่ จะจัดเป็นแปลงดอกไม้ให้ถ่ายรูป ทั้งดอกทานตะวันและดอกไม้อื่นๆ หลากสีสันให้ได้ถ่ายรูปกัน มีบริการนั่งรถชมไร่ด้วย แต่ลืมถ่ายรูปมา เพราะมัวแต่ไปถ่ายรูปดอกไม้ครับ (-_-“)
มีการจัดมุมให้ถ่ายรูปด้วย ข้าวโพดที่เห็นนั่นของจริงนะครับ แต่อาจจะมีแหว่งๆไปบ้าง ไม่รู้คนไปแกะเล่นหรือนกมากิน
นี่ก็อีกมุมนึง จัดเป็นซุ้มเลย
คนไม่เยอะ แต่ที่เยอะคือ…ผึ้ง!!! เป็นธรรมดาของสวนดอกไม้ ผึ้งจะมากันเยอะอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ทำร้ายเราครับ แค่มาตอมเฉยๆ
สู้แดดไม่ไหวครับ ถ่ายรูปได้สักพัก ก็เข้าไปต่อแถวซื้อผลิตภัณฑ์จากข้าวโพด แล้วเตรียมตัวไปจุดหมายต่อไป นั่นคือ Primo Piazza
จากไร่สุวรรณ มาตามถนนมิตรภาพ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกุดคล้า-ผ่านศึก (ทางเข้าแดรี่โฮม) มาตามทางประมาณ 20 กม. ก็จะเห็น Primo Piazza อยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้ามาจอดรถด้านในได้เลยครับ
ทางเข้าอยู่ด้านนี้ครับ ชำระค่าเข้าชมกันก่อน เก็บหางบัตรไว้ด้วยนะครับ สามารถเอาไปแลกอาหารไว้ให้ Alpaca และแกะ ได้
เข้ามาด้านในก็จะเจอกับลานน้ำพุ ซึ่งจัดที่นั่งและมุมต่างๆไว้ให้เราถ่ายรูปด้วย
มุมนี้มีจักรยานประดับดอกไม้สวยๆ แต่โล่งมากกกก..สู้แดดกันไม่ไหวครับ เข้าไปหามุมถ่ายรูปด้านในกันหมดแล้ว
ซุ้มทางเข้า ก็มีมุมถ่ายรูปด้านนอก เรียกว่าเป็นที่นั่งพักหลบแดดดีกว่า
ที่ทางเข้าจะมีป้ายบอกร้านค้า ร้านอาหารด้านใน
พอเข้ามาด้านใน ทางซ้ายมือเราจะเห็นร้านอาหารก่อนเลย ฝั่งนี้ไม่ค่อยมีมุมถ่ายรูปเท่าไหร่ จะมีที่นิยมก็คือด้านบนหอคอย
ทางด้านขวามือ จะเป็นร้านอาหารขนาดเล็ก และมุมถ่ายรูปต่างๆ ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีสดใส
ถ้าเดินตรงไปก็จะเห็นฟาร์มสัตว์อยู่ด้านหลัง แต่เดี๋ยวเราขึ้นไปบนหอคอยชมวิวโดยรวมกันก่อน
ทางขึ้นหอคอย ที่เราเห็นทางด้านซ้ายมือของทางเข้าครับ
ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วครับ อ่อ…บนหอคอยนี้พื้นที่ค่อนข้างน้อยครับ ขึ้นมาได้ครั้งนึงไม่เกิน 7-8 คนก็แน่นแล้ว ถ้าช่วงที่นักท่องเที่ยวมาเยอะๆ อาจจะต้องรอคิวกันหน่อย มองมาด้านนี้เราจะเห็นทางที่เราเข้ามา
อีกด้านนึง ก็จะเป็นพื้นที่ฟาร์ม (ตรงที่มีตัวอักษร LOVE) ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปให้อาหารสัตว์กัน บรรยากาศโดยอากาศรอบดีมากเลยครับ โอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้
กลับลงมาด้านล่างกันต่อ ถ้าเดินมาจากทางหอคอยก็จะเจอจุดถ่ายรูปตรงนี้ครับ จะเดินลัดไปที่ฟาร์มเลยก็ได้
แต่ถ้าเดินทางจากทาง โซนถ่ายรูปทางด้านขวามือ ก็จะมาตามถนนเส้นนี้ครับ
ระหว่างทาง มีป้ายบอกข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ในฟาร์มด้วย
ถึงแล้วววว ฉีกหางบัตรแลกอาหารที่ด้านนอกครับ เราจะเห็นแต่ Alpaca มารุมขออาหาร ด้านในยังมีแกะอยู่นะครับ จะมีบางตัวที่ออกมาอยู่ด้านนอกคอยขออาหาร จับเล่นได้ครับ
Alpaca ผู้หิวโหย 555 กินเก่งสุดๆ
ด้านในมีแกะอยู่อีกเพียบเลย แกะที่นี่เป็นสายพันธุ์เมอริโน (Merino sheep) ซึ่งแกะเมอริโนตัวผู้ จะมีเขายาวม้วนลง แค่เราถืออาหารในมือ ก็เดินตามกันเป็นพรวนละครับ
มานุดดด…ขอหญ้ากินโหน่ยยยย 555
ส่วนลา เห็นอยู่แค่ 2 ตัวนี้อ่ะ แล้วอยู่ในโซนปิดด้วย ห้ามเข้าไปด้านใน เลยได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆ
หลังจากให้อาหารสัตว์ และเหยียบอึจนหนำใจแล้ว ซึ่งเหยียบแน่นอนอึเต็มพื้น 555 แต่ตรงทางออกมีหญ้าเทียมเปียกๆให้เราเช็ดพื้นรองเท้าก่อนออกไป เราก็จะไปกินข้าวเที่ยงกันละ ที่ เดอะ ช็อคโกแลต แฟคทอรี่ (The Chocolate Factory)
ออกจาก Primo Piazza ก็มุ่งหน้าต่อไปอีกประมาณ 11 กม. เดอะ ช็อคโกแลต แฟคทอรี่ จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของเรา ที่จอดรถหน้าร้านมีจำกัด อาจจะต้องจอดไกลหน่อยแล้วเดินมาครับ
ที่นี่จะแยกเป็น 2 ส่วนนะครับ ที่เราเห็นในภาพคือส่วนของร้านอาหาร และหน้าร้านที่เราจอดรถเมื่อสักครู่ คือส่วนของ Bakery และเครื่องดื่ม ขอไปส่วนร้านอาหารก่อนนะครับ ไม่ไหวแล้วหิวข้าวว
บรรยากาศภายในหรูหราทีเดียว อาหารที่นี่จะเป็นสไตล์อิตาเลี่ยน เน้นพิซซ่ากับพวกสปาเก็ตตี้
ซึ่งด้านบนนี้ก็มี Bakery แต่จะมีให้เลือกน้อยกว่าด้านล่าง งั้นเราทานข้าวก่อน ค่อยไปถล่ม Bakery ด้านล่าง อิอิ
เครื่องดื่มมาเสิรฟก่อนเลย อิตาเลี่ยนโซดาแก้วนี้ชื่อว่า “…” หวาน..ซ่า หอมกลิ่นกุหลาบ หลอดเก๋มาก ดัดเป็นรูปหัวใจ แต่ทำไมพอลองทำเองที่บ้านแล้วหลอดแตกทุกที (-_-“)
ไม่นาน อาหารจานแรกก็มา “สปาเก็ตตี้ซอสดำ” บอกก่อนเลยครับ ว่าอาหารที่นี่เผ็ดเกือบทุกจาน เห็นดำๆแบบนี้ มีพริกแห้งใส่มาด้วยนะครับ
จานต่อมา “…” ก็เผ็ดอีกเช่นกัน ในเมนูเห็นพริกทอดวางเป็นชิ้น ของจริงผัดรวมมาให้แล้ว 555
และแล้วก็ถึงคิวพิซซ่า ขอบบางมาก จับมือเดียวไม่อยู่ ย้วยเลยทีเดียว แต่อร่อยมากๆครับ
หลังจากทานอาหารอิ่มแล้ว ก็ลงมาลุย Bakery กันต่อ ที่นั่งจำกัดเช่นเดียวกับที่จอดรถ กาแฟหมดไปแก้วนึงละ ยังไม่ได้ที่นั่งเลยครับ แง…
พอได้ที่นั่งปุ๊บ เราก็มาชิมเค้กกัน ผมสะดุดตากับเจ้านี่ครับ “ราสเบอรี่ครีมชีส (Raspberry Cream Cheese)” หยุ่นๆ สีชมพู หน้าตาเหมือนเอเลี่ยน
ตรงกลางเป็นแบบนี้ครับ มีไส้ด้วย อร่อยจนลืมถ่ายรูป กินจะหมดแล้ว แหะๆ
หลังจากอิ่มแล้ว ก็ถึงสละที่นั่งให้ท่านอื่น ที่ยืนกดดันพร้อมกับส่งกระแสจิตมาว่า “ลุกซะทีสิเมิง…ตูยืนรอจนเส้นเลือดขอดแล้วเนี่ย” จากนั้นขับมาออกที่ถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯครับ
ไร่สุวรรณ
สำหรับคนที่ชอบทานข้าวโพด ที่นี่คือสวรรค์เลย อร่อยทุกอย่าง ส่วนมุมถ่ายรูปค่อนข้างน้อย ดอกไม้สวย แต่แดดก็แรงสุดๆ
Primo Piazza
ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ สไตล์ Tuscany และจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ต้องที่นี่เลย
เดอะ ช็อคโกแลต แฟคทอรี่
เค้กอร่อย อาหารน่าทาน ขนมเพียบเหมาะกับคนที่ชอบทานช็อคโกแลต มีโชว์ทำช็อคโกแลตสดๆ แต่คนเยอะ ที่นั่ง+ที่จอดรถน้อยไปหน่อย